หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เป็นโสดทำไม?

14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 09:30:00
ชีวิตสมรสเป็นยาชูกำลัง ที่ไม่เพียงหล่อเลี้ยงจิตใจให้กันและกัน คู่สมรสยังมีสุขภาพกาย และใจดีกว่าคนที่อยู่เป็นโสด หรือเป็นหม้าย บางคู่นอกจากมีชีวิตที่สมบูรณ์แล้ว ร่างกายยังสมบูรณ์พูนสุขจากไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : "เป็นโสดทำไม ตายไปอายยมบาล ท่านรู้ว่าไม่แต่งงานเดี๋ยวจะพาลไม่ให้ไปเกิด" เสียงเพลงของสุรพล สมบัติเจริญ ถูกนำมาเปิดหยอกเย้าคนโสดผู้เดียวดายในวันวาเลนไทน์ และเป็นอีกวันหนึ่งที่สำนักงานเขตบางรักมีคู่รักชายหญิงจูงมือมาจดทะเบียนสมรสกันอย่างคึกคัก
ไม่เฉพาะแต่วันวาเลนไทน์เท่านั้นที่เขตบางรักได้มีโอกาสต้อนรับคู่สร้างคู่สม ไม่ว่าจะเป็นวันไหน หลายคู่ชีวิตเลือกให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางรักเป็นสักขีพยานแห่งรักของพวกเขา
เมื่อคนสองคนตกลงใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน แน่นอนว่าชีวิตที่เคยอิสระอยากทำอะไรก็ได้ตามใจย่อมหมดไป และอยู่ไปเลี่ยงไม่ได้ที่จะเริ่มมีปากเสียง และยิ่งมีเจ้าตัวเล็กชีวิตยุ่งวุ่นวายเข้าไปอีก ต้องคอยดูแลอาหารการกินให้หลากหลาย ยังมีค่าหมอที่ต้องจ่าย งานบ้านก็หนักยิ่งกว่าออกลูก ไหนจะงานที่ออฟฟิศอีก แล้วยิ่งถ้าต้องมาเผชิญกับคุณชายที่ชอบเถียงว่า "ผมรู้น่าว่าผมเป็นคนยังไง" แต่ตายังจ้องการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกไม่กะพริบ กับอีกหลายเรื่องที่น่าปวดขมับ "ชีวิตอิสระ" จึงเป็นนิยามที่หนุ่มโสดสาวโสดรักและหวงแหนเป็นนักหนา แถมยังวิพากษ์วิจารณ์ชีวิตคู่เสียอีกแน่ะว่า เป็นบ่อเกิดของความเครียด (ซึ่งก็จริง) เป็นแหล่งกำเนิดของความขัดแย้ง (ก็จริงอีกแหละ) และสร้างปัญหาได้ไม่หยุดหย่อนที่จำเป็นต้องแก้ไขให้ลุล่วง (เห็นด้วยอย่างยิ่ง) แต่ชีวิตคู่ยังมีด้านที่ดีอีกมากมาย และหลายคู่ชู้ชื่นยินยอมพร้อมใจเผชิญกับปัญหาทุกอย่างขอแค่ให้ได้อยู่ร่วมกันเป็นพอ จากการรวบรวมข้อมูลช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาพิสูจน์ชัดแล้วว่า ท่ามกลางความท้าทายทั้งหลายแหล่ ชีวิตคู่เป็นกรมธรรม์ประกันสุขภาพที่ดีที่สุดในชีวิต
นักวิจัยพบว่า ประโยชน์ด้านสุขภาพจากการแต่งงานเป็นเหมือนกันทุกชาติทุกภาษา ทุกระดับการศึกษา และฐานะ ถึงแม้จะยังไม่มีงานวิจัยทำนองเดียวกันนี้กับคู่เกย์ แต่มีโอกาสที่คู่รักเพศเดียวกันจะได้รับประโยชน์อย่างเดียวกัน เหตุผลเบื้องหลังเห็นชัดกันอยู่แล้วว่า โดยธรรมชาติแล้วคนที่เคยสูบบุหรี่ ดื่มเหล้าย่อมเปลี่ยนพฤติกรรมไปโดยปริยาย เพราะใครจะทนสายตาประณามหยามเหยียดที่คนรักส่งประกายดุจคมมีดมาให้ ความเครียดและภาวะเซ็งจิตก็พลอยลดน้อยลงไป เพราะคนร่วมชายคาจะคอยดูแลห่วงใยอยู่เสมอ การแต่งงานยังมีคุณูปการสำคัญอีกประการที่นักวิทยาศาสตร์ และหมอเริ่มยอมรับอย่างเต็มอกเต็มใจ
หนาวเนื้อห่มเนื้อ
สิ่งที่ทำให้คู่สมรสมีสุขภาพดีไม่ได้อยู่ข้างนอก แต่อยู่ภายในร่างกายของเราเอง การแต่งงานช่วยให้บริหารความเครียดได้ดีชะงัด เนื่องจากเวลาเกิดความเครียด ร่างกายจะกระตุ้นกระบวนการทางชีวภาพเกี่ยวพันกับฮอร์โมน ต่อม และวงจรประสาท ออกมาตามลำดับขั้น แต่ละกระบวนการกระตุ้นการทำงานไปทีละขั้นจนครบวงจร สมองส่วนที่เรียกว่า ไฮโปธาลามัส หรือต่อมใต้สมองที่มีขนาดเท่าลูกอัลมอนด์ทำหน้าที่เชื่อมระบบประสาทกับระบบเอ็นโดคริน จะบอกให้ต่อมอะดรีนัลหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล หรือที่เรียกกันว่า ฮอร์โมนความเครียดออกมา คอร์ติซอลทำงานตอบสนองกับความเครียด ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ระดับน้ำตาลเพิ่มขึ้น ลดทอนประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันลง
ถ้าแต่งงานจะช่วยร่างกายรับมือกับสถานการณ์ยุ่งเหยิงเหล่านี้ได้ ทำให้ไฮโปธาลามัสสงบลง หรือลดการหลั่งคอร์ติซอลลง
สามีของภรรยารายหนึ่งยอมรับว่า "ก็ผมเป็นผู้ชาย มันแน่อยู่แล้วที่ผมจะห่วงว่าผมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหลังวิ่งไปได้ 5,000 กิโลเมตรหรือยัง มากกว่าจะมาห่วงว่า ผมไปตรวจสุขภาพประจำปีมาหรือยัง ภรรยาผมมักคิดอยู่เรื่อยว่าผมผิดปกติต้องไปหาหมอ ทั้งที่ผมเองไม่เห็นรู้สึกเลย"
ถึงกระนั้น คงไม่มีใครแย้งว่า การแต่งงานมีคนคอยเป็นเพื่อนเคียงคู่ และดูแลเอาใจใส่อยู่เสมอดีกว่าอยู่คนเดียว แม้บางครั้งที่เผลอทิ้งผ้าขนหนูเปียกไว้บนพื้น หรือบีบยาสีฟันผิดทาง จะถูกสายตาพิฆาตตำหนิชนิดความสุขหดหายไปฉับพลันก็ตาม
(หมายเหตุข้อมูลจากนิตยสารไทม์)
สมสกุล เผ่าจินดามุข เรียบเรียง